ความเห็น: 12
ครอบครัวตัววุ่น .. ตอน.. เมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็งเต้านม!!!
“รู้สึกว่าหน้าอกดึ๋งดั๋งขึ้น ..” เจ้าป้าบ่นปรอยๆ แต่ก็ไม่ได้ร้อนใจอะไร ..ดีซะอีก อายุ 50 กว่าๆ แล้ว แต่หน้าอกตึงขึ้น
“วัยทองหรือเปล่า..เดี๋ยวมันก็หายเองแหละ” ..พ่อลุงแซว
หลายวันผ่านไป...
“เอ้.. ทำไมมันเป็นก้อนๆ ด้วยนะ ..ไปหาหมอดีกว่า”รุ่งเช้า...
“รอผลตรวจตอนบ่ายนะครับ” คุณหมอบอก
กริ๊งๆๆๆ....”ป้า .. พรื่อมั้ง หมอว่าพรื่อ?”
เอาหล่ะ ทุกคนมาฟังพร้อมกันนะ เจ้าป้าพบก้อนเนื้อที่เต้านม ซึ่งมีขนาดใหญ่ประมาณ 5 เซนติเมตร หมอบอกว่ามีโอกาสเป็นเนื้อร้ายสูง รอผลการตรวจเนื้ออีกประมาณหนึ่งอาทิตย์ และทำแมมโมแกรม (อัลตราซาวด์เต้านม) เพื่อดูตำแหน่งของก้อนเนื้อ
ครอบครัวเราต้องรอผลการตรวจอย่างใจไม่ค่อยดี เรารู้เพียงแค่ว่าโรคนี้ต้องการกำลังใจ เราจึงดูแลเอาใจใส่เจ้าป้าเป็นพิเศษ!!!
และแล้วคำถามพื้นฐานก็ออกมาจากปากเจ้าป้า
“โรคมะเร็งเต้านมคืออะไร ใครช่วยบอกหน่อย?”
ลูกๆ หลานๆ ก็ไปหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตมาให้เจ้าป้าอ่าน พอสรุปคร่าวๆ ง่ายๆ ได้ว่า "มะเร็งเต้านมเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ของเต้านมมีการแบ่งตัวโดยไม่สามารถควบคุมได้ มีการเบียดบังเนื้อเยื่อข้างเคียงและแพร่ขยายไปทั่วร่างกาย โดยเซลล์มะเร็ง จะเพิ่มจำนวนและแบ่งตัวได้ด้วยตนเอง มันจะแย่งสารอาหารจากเซลล์ปกติ และเข้าไปแทนที่เซลล์ปกติของเต้านม หากปล่อยไว้เซลล์ปกติเหล่านี้จะไม่สามารถเติบโตได้ แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการนี้ต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปี ซึ่งการตรวจแมมโมแกรม (การเอกซเรย์เต้านม) บางครั้งอาจช่วยทำให้ตรวจพบโรคก่อนที่จะรู้สึกหรือเห็นการ เปลี่ยนแปลงได้"
มาดูเต้านมของเรากันดีกว่า
ร่างกายประกอบด้วยเซลล์เป็นจำนวนมาก ปกติเซลล์จะแบ่งตัวตามความต้องการของร่างกาย เช่น มีการผลิตเม็ดเลือดแดงเพิ่มเมื่อมีการเสียเลือด มีการผลิตเม็ดเลือดข้าวเพิ่มเมื่อมีการติดเชื้อ เป็นต้น แต่มีเซลล์ที่แบ่งตัวโดยที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ทำให้เกิดเป็นเนื้องอก Tumor ซึ่งแบ่งเป็น Benign และ Malignant
Benign คือเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็งสามารถตัดออกและไม่กลับเป็นใหม่ และที่สำคัญไม่สามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น
ส่วน Malignant tumor เป็นเซลล์ที่จะแบ่งตัวทำลายเนื้อเยื่อและอวัยวะใกล้เคียง ที่สำคัญสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นที่อยู่ไกลโดยไปตามกระแสเลือด และน้ำเหลือง
มาดูคำศัพท์ ตามรูปกันนะคะ
FIBROADENOMA เป็นเนื้องอกธรรมดาที่มีก้อนแข็งประกอบด้วยพังผืดและเนื้อเยื่อจากต่อมน้ำนม พบบ่อยสุดในวัย 18-35 ปี มักไม่มีอาการเจ็บนอกจากบางครั้งอาจรู้สึกคัด ๆ เต้านมบ้างก่อนมีประจำเดือนเวลาคลำดูจะรู้สึกว่ามันกลิ้งไปมาได้
Cyst คือถุงน้ำที่เกิดขึ้นโดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง การแก้ไขถ้าไม่ใหญ่มากอาจยังไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้าใหญ่ก็อาจจะต้องทำการผ่าตัดเพื่อเอาออก
FIBROCYSTIC DISEASE เป็นภาวะที่พังผืด ต่อมและท่อน้ำนมมีปฏิกริยามากเกินไปต่อการกระตุ้นของฮอร์โมนระหว่างการตกไข่ ทำให้ฟังผืดเกาะตัวเป็นกลุ่มเป็นก้อนและ/หรือ มีถุงน้ำเล็ก ๆ จำนวนมากปะปนอยู่ อาการของโรคนี้คือ มีก้อนโตขึ้นและเจ็บเต้านมก่อนจะมีประจำเดือน แล้วค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อประจำเดือนหมด
tumor คือเนื้องอก ซึ่งอาจหมายถึงเนื้อร้ายหรือเนื้องอกธรรมดาก็ได้ ที่มา
www.newsclassroom.obec.go.th/view.php?article_id=158&page=2
http://www.siamhealth.net/public_html/
Disease/cancer/breastcancer.htm/
cancer/breastcancer.htm
www.ra.mahidol.ac.th/faculty/thai/webboard/answer.php?ids=7934 www.geocities.com/suchartW/breast.htm www.bangkokhealth.com/consult_htdoc/Question.asp?GID=20465 www.geocities.com/suchartW/breast.htm
*************************************************************
“ป้าต้องไม่เครียดนะ ความเครียดทำให้อาการมันแย่ลง” ลูกๆ หลานๆ พยายามพูด
“ก็อยากจะปรึกษาเหมือนกัน ตอนนี้ป้าคิดว่าตัวป้าเอง ยอมรับ กับโรคนี้ได้ และรู้ว่าก้อนเนื้อนี้คงเป็นเนื้อร้าย และตัดสินใจที่จะตัดเต้านม ไม่ห่วงเรื่องความสวยงามหรอกเพราะอายุก็มากแล้ว แต่มีข้อสงสัยนิดเดียวว่า ที่บอกว่าไม่ให้เครียดหน่ะ จะรู้ได้ยังไงว่าเราเครียดหรือเปล่า?”
เอ่อ นะ...??!!....
“ป้า เอาอย่างนี้ละกัน ทางวิชาการก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าเราจะวัดความเครียดได้อย่างไร แต่เอาง่ายๆ แค่ว่า เรื่องไหนที่ป้าคิดวนไปวนมาหลายๆ ครั้งหน่ะ ป้าทำใจปล่อยวางมันไปได้หรือเปล่า ถ้าปล่อยวางได้ ไม่เสียใจ ไม่วิตก ไม่คิดซ้ำๆ มันก็น่าจะไม่เครียดนะ”
ใช้ได้หรือเปล่าเนี่ย คำแนะนำแบบนี้????
“แล้วต่อไป ป้าจะทำตัวยังไงหล่ะ ที่จะให้ไม่เครียด” เจ้าป้าถามด้วยดวงตาใสซื่อ
“แหมป้า ต่อไปป้าก็ไม่มีเวลามาเครียดหรอก วันๆ ก็คิดแต่เรื่องของกินที่มีคุณภาพ ต้มน้ำ ทำแปลงปลูกผักกินเอง แค่นี้ก็หมดเวลาแล้ว”
“เออ นะ ได้ๆๆ”
แล้วเราก็เริ่มปลูกถั่วพลู มะละกอ พริก ถั่วฝักยาว กัน... วางแผนจะปลูกดอกแคร์ จัดแผนเรื่องอาหารการกินในแต่ละวันด้วย ... หยอกล้อกันเป็นที่สนุกสนาน
########################################
ผลการตรวจแมมโมแกรมและเนื้อเยื่อ
ตรงตามที่คาดไว้คือก้อนเนื้อนั้นเป็นเนื้อร้าย คงต้องตัดเต้าทิ้ง และต้องตัดต่อมน้ำเหลืองไป 3 จุด (หนึ่งเต้านมจะมีต่อมน้ำเหลืองประมาณ 10 กว่าจุด) แต่สิ่งที่ไม่ได้คาดไว้ก็คือ การตรวจแมมโมแกรมพบก้อนเล็กๆ ประมาณ 2-3 ก้อน ที่หน้าอกอีกข้างหนึ่ง ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถพบได้จากการคลำด้วยมือเปล่า...
หมอบอกว่า จะไม่เจาะก้อนเนื้อตรงนี้ไปตรวจ แต่จะทำการผ่าตัดเพื่อดูว่าเป็นก้อนเนื้อธรรมดาหรือเนื้อร้ายในวันเดียวกับที่ผ่าหน้าอกข้างที่มีเนื้อร้ายทิ้ง เพื่อที่คนไข้จะต้องได้เจ็บแค่ครั้งเดียว
สิ่งที่เราจะต้องตัดสินใจบอกหมอก็คือ จะทำอย่างไรหากเนื้ออีกข้างหนึ่งเป็นเนื้อร้าย
เนื่องจากมันมีขนาดเล็กมาก เราสามารถเลือกที่จะเก็บเต้าอีกข้างหนึ่งไว้ได้ โดยการคว้านเฉพาะเนื้อร้ายออก ซึ่งอาจจะกลับมาเป็นอีก ประมาณ 3% แต่ถ้าตัดเต้าทิ้งโอกาสที่จะกลับมาเป็นอีก อยู่ที่ 2% ซึ่งหมอบอกว่าไม่มีความแตกต่างกัน อยู่ที่คนไข้ตัดสินใจเอง
ปัญหาอยู่ที่ว่า เราจะต้องบอกคุณหมอก่อนดมยาสลบเข้าห้องผ่าตัด หมายถึง เราต้องตัดสินใจโดยที่ยังไม่รู้ว่ามันเป็นก้อนเนื้อหรือมะเร็ง!!! ถ้าเป็นแค่ก้อนเนื้อ คุณหมอก็จะผ่าตัดออกให้ แต่ถ้าเป็นมะเร็ง เราจะต้องบอกหมอตอนนี้เลยว่าจะรักษาเต้าไว้ หรือตัดทิ้งไปเลย!!!
#######################################
ก่อนที่จะกล่าวถึงครอบครัวตัววุ่น ตอนต่อไป ขอนำเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เท่าที่ตัวเองเข้าใจมาให้อ่านกันก่อนค่ะ มะเร็งเต้านม (Breast cancer) เป็นมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย โดยพบมากเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งปากมดลูก โดยสามารถพบได้ 1 ใน 10 ของผู้หญิง มะเร็งเต้านมนั้นสามารถพบได้ในผู้ชายเช่นกัน แต่พบในอัตราที่น้อยมาก
ผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาตั้งแต่อายุก่อน 12 ปี หรือ ประจำเดือนหมดช้าหลังอายุ 55 ปี จะมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมได้ง่ายกว่าคนปกติ
อาการเริ่มต้นที่อาจจะเป็นมะเร็ง มะเร็งระยะเริ่มต้นนั้นมักจะไม่มีอาการเจ็บ แต่อาจจะตรวจพบความผิดปกติเกิดขึ้นที่เต้านม ซึ่งอาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของโรคมะเร็งเต้านม ดังนี้
· มีก้อนที่เต้านม (ร้อยละ 15-20 ของก้อนที่คลำได้ บริเวณเต้านมเป็นมะเร็งเต้านม · มีการเปลี่ยนแปลงขนาด และรูปร่างของเต้านม · ผิวหนังเปลี่ยนแปลง เช่น รอยบุ๋ม ย่น หดตัว หนาผิดปกติ บางส่วนมีสะเก็ด
· หัวนมมีการหดตัว คัน หรือแดงผิดปกติ
· มีเลือดหรือน้ำออกจากหัวนม ( ร้อยละ 20 ของการมีเลือดออกจะเป็นมะเร็ง)
· เจ็บเต้านม ( มะเร็งเต้านมส่วนใหญ่ไม่เจ็บ นอกจากก้อนโตมากแล้ว )
· การบวมของรักแร้ เพราะต่อมน้ำเหลืองโต
ภาพแมมโมแกรม : (ซ้าย)เต้านมปกติ (ขวา)เต้านมมะเร็ง
ถึงเวลาที่ครอบครัวเราจะต้องมาร่วมกันตัดสินใจ......และเป็นประสบการณ์ที่อยากจะแบ่งปันค่ะ
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « สะบายดี ..วังเวียง...
- ใหม่กว่า » แฟ้มคดี..ใครฆ่าห้างทอง
ความเห็น
- “ป้าต้องไม่เครียดนะ ความเครียดทำให้อาการมันแย่ลง”
- เรื่องความเครียดห้ามกันไม่ได้หรอกนะ คนอื่นไม่เข้าใจเหมือนตัวเรานะ ยกตัวอย่างพี่นะ พี่ดูแลเรื่องโภชนาการค่อนข้างเนี๊ยบ เพราะเป็นเบาหวาน ความดัน น้องชายเป็นเบาหวาน พี่เช็คสุขภาพทุกปี พี่ไม่มีปัญหาใด ๆ
- ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน แม่ล้มลงเพราะเบาหวานเป็นอัมพฤกษ์ ทำให้ชีวิตพี่เปลี่ยนไปจากที่ได้ออกกำลังกายแทบทุกวัน วันละ 40 นาทีเป็นอย่างต่ำ ก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย และด้วยความสงสารแม่กลายเป็นความเครียดล่าสุด ก็งง ๆ ๆ ๆ ๆ ว่าทำไมมึนหัวทุกวัน และเป็นเอาอย่างม๊ากมาก
- ล่าสุดไปเช็คพบว่าไขมันในเส้นเลือด 298 ต๊กกะใจมาก
- หมอไม่ได้ให้ยาทาน แต่พี่พยายามหาเวลาออกกำลังกาย ทานกระเทียมแค๊ปซูล น้ำมันปลา ค่ะ พอช่วยได้
- ใครมีข้อแนะนำอื่นยินดีรับฟังค่ะ
- ตอนที่rujไปตรวจสุขภาพ เคยบอกหมอว่าขอทำเมมโมแกรม หมอบอกว่าไม่เจ็บหน้าอกไปเข้าเครื่องฯบีบหน้าอก ทำให้เจ็บทำไม หมอคงให้เราเจ็บก่อนแล้วค่อยเมมโมแกรม ถึงเวลานั้นน่าจะช่วยอะไรไม่ได้แล้วกระมังคะ?
![]() |
![]() |
ไม่รู้ว่าใช่หรือป่าวแต่กลัวว่าจะเป็น
กลัวอยู่เหมือนกัน แต่...ขอให้ไม่เป็นเถอะ........สาธุ
![]() |
![]() |
คลำพบก้อนเหมือนกันตอนนี้กังวลมากจะไปตรวจพุธนี้ ต้องกล้าไปหาหมอนะ เพราะจะได้รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่และจะได้รักษาทัน
![]() |
ณเวลานี้เราก็ปะสบกับมะเร็งเต้านมเราทำใจไม่ได้เลย แต่พี่น้องป้าน้าอา น้องๆ ลูกทั้งสองให้กำลังใจดีมาก กำลังใจสำคัญมาก
เราจะสู้ ตอนนี้เราเอานมออกไปข้างหนึ่ง เราไม่มีก้อนมะเร็งแล้วนะ แต่ไม่เข้าใจทำไมต้องให้คีโมด้วย
![]() |
กลัวเป็นเหมือนกันค่ะแต่ไม่กล้าไปหาหมอช่วยแนะนำหน่อยค่ะ
![]() |
@Khun Nuan
ดิฉันเข้าใจค่ะว่าโรคนี้มันน่ากลัวยังไง และการที่จะเข้าไปปรึกษาคุณหมอเพื่อตรวจว่าเป็นหรือไม่เป็นเนี่ยมันต้องใช้ความกล้ามากๆ ดิฉันพอก้อนเนื้อครั้งแรกตอนอายุ 17 ตอนเรียนอยู่ ม หก ตอนนั้นกลัวมาก แต่ไม่กล้าบอกใครเลย ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ หรือเพื่อนสนิท ครั้งแรกที่รู้สึกเป็นเป็นก้อนเล็กๆกลิ้งได้ค่ะ ประมาณปลายนิ้วก้อย ก็สองหาอ่านในอินเตอร์เน็ตดูว่ามะเร็งเต้านมเป็นอย่างไร หรือว่าเวลามีโอกาศไปโรงพยาบาลก็หยิบแผ่นพับเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมมาอ่านดู ยิ่งอ่าน ยิ่งกลัว จนไม่กล้าไปหาคุณหมอ ผ่านไปเกือบสองปี ก็ไม่กล้าไป จนกระทั่งวันดีคืนดีคลำเจ้าก้อนนั้นแล้วรู้สึกว่ามันใหญ่ขึ้นจนขนาดเท่าหัวแม่โป้ง เลยกลัวมากจนต้องไปบอกคุณแม่ และรีบไปหาหมอกันค่ะ เริ่มตั้งแต่ให้คุณหมอลองคลำดู หมอหลายท่านก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก ยังเด็ก อายุ 19 เอง แล้วก้อนกลักษณะนี้ไม่เป็นมะเร็งแน่นอน แต่คุณแม่ก้อไม่วางใจต้องไปทำ ทั้ง ultrasound และเมมโมแกรม และสุดท้ายเอาผลตรวจทุกอย่างไปหาคุณหมอ ศุภกรณ์ ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ (ปกติท่านเป็นอาจารย์หมออยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะ) ถึงแม้ว่าจะมีข้อมูลมากเพียงไร มีคุณหมอคอนเฟิร์มหลายท่านว่าไม่เป็นนื้อร้ายแน่นอน แต่มันก็ทำใจลำบากค่ะ การที่ไปพบคุณหมอที่เ็ป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ก็ทำเอาหวั่นๆได้เหมือนกัน เพราะว่าถ้าเกิดคุณหมอตรวจดูแล้วบอกว่า เป็นเนื้อร้าย คงจะแย่มากเลยค่ะ
พอเข้าไปพบคุณหมอพร้อมกับคุณแม่ ตอนแรกก็อายนะคะพี่เป็นคุณหมอผู้ชาย แต่ดิฉันก็เชื่อแม่ค่ะว่าคุณหมอท่านนี้คือท่านที่ดีที่สุดที่คุณแม่พามาหาแล้ว คุณหมอใจดีมาก ยิ้มให้แล้วก็บอกว่าหมอขออนุญาตนะ จะตรวจให้ว่าเป็นอะไร แต่ก็ให้กำลังใจว่า หนูยังเด็กอยู่ ไม่เป็นไรหรอก ทั้งคุณแม่ก็สบายใจได้ และพอตรวจเสร็จ คุณหมอก็บอกว่า ก้อนอย่างงีไม่เป็นชัวร์ และคอนเฟิร์มสิ่งที่คุณหมอท่านอื่นบอกว่ามันคือ fibroadenoma เป็นเนื้อธรรมดาไม่อันตราย แต่แนะนำให้ผ่าตัดออกซะเพระาก้อนมันใหญ่แล้ว จากการคำนวณคุณหมอคิดว่าก้อนของเรามีขนาดความยาวสี่เซ็นค่ะ คุณแม่ลองถามว่าต้องอัตราซาวน์ หรือทำเมมโมแกรมใหม่มั้ย คุณหมอยังดุคุณแม่อีกว่า จะให้ลูกเจ็บอีกทำไมที่จริงพวกนี้ไม่ต้องทำมาเลยก็ได้ ก้อนแค่นี้คลำรู้ตำแหน่งแล้วผ่าออกก็อได้แล้ว หลังจากนั้นก็อนัดผ่าออกอีกหนึ่งอาทิตย์ให้หลังค่ะ ผ่าใช้เวลาไม่นานเลย คิดว่าเวลาผ่านจริงๆน่าจะไม่เกิน 20 นาที แต่ว่าเนื่อจะต้องมีการเตรียมตัวก่อนหลังเลยเข้าห้องผ่าตัดไปประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ
จากการตรวจครั้งนี้ การที่รู้ว่าก้อนเนื้อนั้นไม่ได้เป็นมะเร็งก็ดีใจค่ะ แต่สิ่งที่ดีใจที่สุดคือเพราะว่าตัวเรากล้าบอกแม่ว่าหนูเป็นนะ หลักจากที่วุ่นวายเรื่องลูกจนผ่าเสร็จ คุณแม่เลยจัดการตรวจของตัวเองบ้างแล้วสิ่งที่น่ากลัวก็เกิดขึ้นว่าพบก้อนเนื้อร้ายระยะเริ่มต้น แต่สุดท้ายคุณแม่ก็ผ่ารักษาจนหายค่ะ ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีมากที่ตัวเราเป็นแล้วคุณแม่เลยใส่ใจไปตรวจด้วยกัน ถ้าเราทิ้งนานไว้ว่านั้นและไม่บอก คุณแม่เราอาจจะไม่เคยไปตรวจเลยแล้วอาจจะรู้ตอนสายไปแล้ว
เพราะฉนั้น คุณนวลคะ ดิฉันแนะนำว่าไปตรวจแต่เนิ่นๆดีกว่าค่ะ นอกจากตัวเราเองแล้ว ยังมีคนรอบตัวและครอบครัวที่เป็นห่วงเราอยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
![]() |
วันนี้ไปฟังผลว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะแรก นัดวันผ่าตัด 21 ธ.ค.55 นี้ เป็นข้างซ้าย ควรตัดบางส่วนหรือทั้งหมดใครตัดสินให้เราได้และภายหลังต้องฉายแสงร่วมด้วย เจ็บไหม ขอรบกวนช่วยแชร์ให้เตรียมใจกันหน่อยค่ะ
17 เมษายน 2551 13:59
#27008
เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเองเหมือนกันคร้าบเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว แต่ของแป้นแค่ 2 เซ็นต์ ขนาด จิ๋วๆยอมรับว่ากลัวเหมือนกัน
ทำเอาวุ่นกันทั้งบ้าน เพราะ ยายก็เสียชีวิตเพราะมะเร็ง
แป้นไปหาหมอมาหลายโรงพยาบาลเลยล่ะ แต่ไม่ได้พบแพทย์ซักโรงพยาบาล เนื่องจาก หมอเป็นผู้ชาย (555) แบบว่ากลัว กว่าจะได้ตรวจก็ทำใจอยู่นานสุดท้าย ตัดสินใจเลือก คุณหมอวิชัย ชี้เจริญ ตอนที่ไปผ่า ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว ก็กลับบ้านได้ เพราะใช้วิธีฉีดยาชา พอผ่าเสร็จ หมอยังเอามาโชว์ให้ดู แต่แป้นโชคดีที่ เนื้องอกที่พบ เป็นเนื้อดี แต่หมอก็บอกว่า ต้องคอยตรวจบ่อยๆ นะ ถ้าเป็นอีกต้องรีบไปหาหมอทันทีอย่าปล่อยทิ้งไว้