ความเห็น: 1
ไม่อยากจะเอ่ย.......สารภาพความในใจ
....ไม่อยากจะเอ่ย.......สารภาพความในใจที่อยากบอก "อยากได้เสื้อ KM เภสัชศาสตร์"...โอ..ไม่ทันแล้ว...
แต่ก็ยินดีกับทุกท่านด้วยคร้าบบที่ได้...ไม่เป็นไรเราก็จาสู้ต่อไป....และขอสารภาพว่ามาจองที่จะเขียนไว้ตั้งนานแล้วว
ก็เพิ่งจาได้มาเขียนนี่ล่ะคร้าบ..อิอิ...ไม่ว่ากันนะ..(คิดเข้าข้างตัวเอง) พูดถึงเรื่อง สารภาพความในใจ..คงเคยได้ยิน
และใครหลายคนอาจจะเคยผ่านประสบการณ์นี้มาบ้างแล้วกับการ "สารภาพรัก” มีทั้งสมหวังและผิดหวัง..ใจเต้นแรง..
อาจจะไม่แรงเท่า จังหวะหัวใจของบี้ อิอิอ....สำหรับบางคนอาจจะเป็นเรื่องง่ายและบางคนก็อาจจะเป็นเรื่องที่แสนยากเย็น...
ถ้าอ่านการ์ตูนบ่อยๆๆคงคุ้นเคยกับเรื่องนี้โดยเฉพาะการ์ตูนญี่ปุ่น ที่ใครๆ เรียก การ์ตูนตาหวานบ้าง การ์ตูนผู้หญิงบ้าง
เพราะต้องมีฉากนี้..สารภาพรัก..ซึ่งพลาดไม่ได้...ไม่งั้นการ์ตูนก็ขาดสีสัน....เหอๆๆ เจ้าของบันทึกก้ชอบอ่าน..
ซึ่งมันก็คงสะท้อนจากวัฒนธรรมจริงๆของสังคมญี่ปุ่น

{ ในญี่ปุ่น ประเทศที่มีการ “สารภาพรัก” เป็นส่วนหนึ่งที่เกิดในวัฒนธรรม มีเว็บไซต์และแหล่งข้อมูลมากมายที่อุทิศให้
“โคะคุฮะคุ” โดยมีเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่เรื่องของวิธีการ จังหวะ ภาษาที่ใช้ ไปจนถึงข้อควรปฏิบัติและข้อควรระวัง
ซึ่งขอสรุปสั้นๆ มาจากเว็บไซต์ชื่อ www.i-kokuhaku.com (แค่ชื่อของเว็บไซต์ก็รู้แล้วค่ะว่าเว็บไซต์นี้เกี่ยวกับการ
“สารภาพรัก”อย่างแน่นอน)
เว็บไซต์นี้รวบรวมเรื่องราวและข้อมูลเกี่ยวกับการ “สารภาพรัก” และยังลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ในหัวข้อเดียวกันด้วย
เรื่องแรก คือ เรื่องของ “จังหวะ และเวลา” ที่ทางเว็บไซต์บอกว่าคนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดคิดว่า ควรกระทำใน “โอกาสพิเศษ”
อย่างวันวาเลนไทน์หรือวันคริสต์มาส แต่จริงๆ แล้วการสารภาพรักในโอกาสพิเศษกลับไม่ได้มีผลแตกต่างออกไปเลย
เวลาที่เหมาะต่อการ “โคะคุฮะคุ” มากที่สุดนั้น คือช่วงเวลาที่ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกหันเข้าหาหรือโอนเอียงมาทางเราต่างหาก
เพราะถ้าฝ่ายตรงข้ามดูไม่มีทีท่า ต่อให้สารภาพรักเวลาไหน ก็คงเป็นไปได้ยาก
เรื่องต่อมาคือ สิ่งที่ทำให้คนคนนั้นประทับใจได้ ข้อมูลชี้ว่าสิ่งที่มีผลมากที่สุดคือ สีหน้าและท่าทาง รองลงมาคือ
น้ำเสียงและการใช้ภาษา ส่วนลำดับสุดท้าย คือ เนื้อหาของสิ่งที่พูด
อย่างไรก็ตาม ลำดับที่กล่าวมาก็จะแตกต่างกันไปตามวิธีการ เช่น ถ้าเป็นเมลทางโทรศัพท์ จะเป็นเรื่องของเนื้อหา
และภาษาที่ใช้ล้วนๆ ถ้าเป็นทางโทรศัพท์ เนื้อหา ภาษา และน้ำเสียงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้าเป็นการพบหน้ากันล่ะก็
ปัจจัยทุกอย่างก็จะมีบทบาทต่อการโคะคุฮะคุ
ส่วนเรื่องสุดท้าย คือเรื่องของ “จุดประสงค์” และ “จุดหมาย” ของการ “โคะคุฮะคุ” ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 อย่าง
คือ เพื่อ “สารภาพรัก” และเพื่อให้ได้ “คบหรือรู้จักคนคนนั้น” มากขึ้น โดย “จุดประสงค์” นี่เองที่ทำให้การเลือกใช้คำ
ภาษา และท่าทางมีความแตกต่างกัน
ถ้าจุดหมายของโคะคุฮะคุคือความต้องการที่จะ “สารภาพรัก” เพียงอย่างเดียว สิ่งที่สื่อสารออกมาก็จะเป็นไปเพื่อเราฝ่ายเดียว
แต่ถ้า “จุดประสงค์และจุดหมาย” ของการโคะคุฮะคุ คือ การให้มีโอกาสได้รู้จักกับคนคนนั้นมากขึ้นล่ะก็ กระบวนการกลั่นกรอง
และทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกถ่ายทอดออกมา ก็จะเต็มไปด้วยความหวัง ความรู้สึกดีๆ และความรู้สึกที่อยากให้ทั้งสองฝ่ายมีความสุข
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่มีผลให้ “โคะคุฮะคุ” สำเร็จและเห็นผล
แต่ก็สามารถมองได้อีกมุมหนึ่งว่า สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดอาจไม่มีค่าเท่ากับความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ผ่านการกลั่นกรอง และไม่เรียกร้องใดๆ
มีเป้าหมาย และไม่มีเป้าหมาย
การกลั่นกรอง และไม่กลั่นกรอง แต่สื่อสารออกไปอย่างซื่อๆ
การต้องการเป็นเจ้าของ และความรู้สึกไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของ
การถ่ายทอดความรู้สึกออกไป และการเก็บมันเอาไว้คนเดียวเงียบๆ
จริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากกว่าสิ่งใดๆ ก็ได้นะคะ" }
ขอให้กำลังใจทุกท่านที่มีความรักในหัวใจ
ที่มา : “สารภาพรัก” อย่างไร ให้สำเร็จในแบบญี่ปุ่น
โดย จินนี่ สาระโกเศศ
คอลัมน์ Come Into นิตยสาร Metro Life
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « ไม่อยากจะเอ่ย.......สวัสดีครึ่งห...
- ใหม่กว่า » ไม่อยากจะเอ่ย...สวัสดีครึ่งแรกขอ...
05 มิถุนายน 2551 21:08
#30457