มองตัวเอง ผ่าน 5 ส.

โดยนิสัยแล้ว "ท้าว" เป็นคนชอบเย็บปักถักร้อย ชอบประดิษฐ์ ตัดแปะปะประยุกต์ โน่น นี่ นั่น อยู่ตลอดเวลา

ผลเหรอคะ คือมีทรัพย์สมบัติ มีของกระจุกกระจิ๊กที่ใช้แล้ว แต่ ถูกเก็บไว้เพื่อประยุกต์ใช้ทำอย่างอื่น อยู่มากมาย

พี่ชายที่เลี้ยงดูดิฉันมาเล่าให้ฟังว่า เค้าขนของย้ายบ้านตอนปิดเทอมซึ่งตอนนั้นดิฉันกลับมาพักผ่อนปิดเทอมที่หาดใหญ่ พบว่าของกระจุกกระจิกของดิฉันเช่น กระดุมที่แกะจากเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว ซิบที่เอาออกจากเสื้อผ้าที่ขาดแล้ว นอกจากนั้นยังมีของตกแต่ง โน่นนี่นั่น..อีกมากมาย...รวมแล้ว 4 ลังแม่โขง...สมัยเด็กๆ

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ 5 ส.หล่ะคะ

มันก็ติดมาซิคะกระดงกระดาษ...จะทิ้งจะเก็บ จะทำลายจะเอาไว้อ่าน...นี่ก็ใช้ประโยชน์ได้ นี่ก็เนื้อหาสาระ นี่ก็ความเป็นมาของงานจะทิ้งได้ลงคออย่างไร มันเลยเต็มไปหมดรอบๆ ตัว 

บทหนักอยู่ที่กรรมการ 5 ส. โต๊ะผู้หลักผู้ใหญ่อย่างดิฉัน...อ๊ากส์สสส กรรมการตรวจทีไรก็อมยิ้มทุกที มันทำให้คะแนนคนอื่นๆ เสียในภาพรวม

ทีนี้ดิฉันเองก็เป็นคนยุคพัฒนาแล้วก็มิได้นิ่งนอนใจ จะจัดการกับตัวเองยังไงดีน้า...ถึงจะเท่าทันตัวเอง...

ขั้นตอนก็มีดังนี้ค่ะ

1.ตัดใจเอกสารที่ชอบแต่ ทิ้งไม่ลง...อยากจะทะยอยสะสางทิ้ง

2.เอาไว้ห่างๆตัวไปก่อนหากทิ้งไม่ลง และถ้าภายใน 6 เดือนพิสูจน์แล้วว่ามิได้เหลียวมองมันหรือถวิลหาอยากหยิบมาใช้งานเลยก็เรียกว่าทิ้งได้

3.ทิ้งเลยหรือจะขนกลับบ้านเพื่อสแกนเก็บก็เป็นเรื่องของเรา ทุกวันนี้เครื่องสแกนจะมาพร้อมกับ Printer อยู่แล้ว ตัวเก็บข้อมูล ทัพม์ไดร์ ก็เป็นเงินของเราซื้อเองจะกี่ กุ๊ก กี่กิ๊ก ก็เก็บไปไม่เดือดร้อนกรรมการ 5 ส.

3.อธิบายคนที่บ้านว่างานนี้ที่ต้องขนมานั่ง สแกนเป็นวันๆ มันคือเรื่องของนิสัยของน้องเองนะคะ...ที่จริงมันทิ้งไปก็ได้แต่น้องอยากเก็บ อิ..อิ...

ทำแค่นี้ก็โล๊ะไปได้...เยอะค่ะ เรื่องราวนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ... กรรมการ 5 ส.อย่างเพิ่งขึ้นบัญชีดำนะคะ อิ..อิ...

เรื่องนี้ Apply ได้นะคะ...คนที่รักกัน ชอบกันหรือไปแอบรักเค้า ที่เก็บเอาไว้เป็น กรุ กรุ...

ขั้นแรกขยับออกไปไว้ขอบๆ ใจ
หากไม่คิดถึงนานๆ ก็เก็บเข้าห้องเก็บของเก่า ห่างออกจากตัวไปทีละหน่อย
หากไม่คิดถึงอีก ก็โล๊ะออกเป็นบัญชีแทงทำลายเลย


...เรียกว่า 5 ส.หัวใจ อิ..อิ..