ความเห็น: 0
งูกะปะ หลังบ้าน
เมื่อวานมีการสะสางพื้นทีใกล้บ้านซึ่งรกไปด้วยต้นไม้ มีแอ่งน้ำ มีผักตบ ใบเลย คือรกมากๆ
น่าจะเป็นที่ๆ งูชอบอยู่ และแล้วช่างขับ JCB ก็เจอลูกงูกะปะ เกือบถูกฉกกัด เรากลัวงูเลยไม่กล้าไปดูใกล้ๆ เขาเลยเขี่ยลงท่อระบายน้ำข้างถนน ก็ไม่รู้ว่าจะไปถึงที่ไหน แต่ที่เราสงสัยกว่านั้นคือ แล้วแม่งูล่ะ อยู่ไหน
มีคนถามว่า มันมีพิษมากมั้ย เลยต้องมาหาข้อมูล เพราะเราก็สงสัยเช่นกัน
งูกะปะ เป็นงูพิษที่มีพิษรุนแรงมาก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Calloselasma rhodostoma จัดเป็นงูเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Calloselasma โดยไม่มีชนิดย่อย[2]
ลักษณะหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม คอเล็ก ลำตัวอ้วน หางเรียวสั้น มีลายเป็นรูปเหมือนหลังคาบ้านอยู่ด้านข้างตลอดลำตัว มีสีเทาอมชมพูลายสีน้ำตาลเข้ม เกล็ดมีขนาดใหญ่ จะงอยปากงอนขึ้นข้างบน หากินเวลาพลบค่ำและกลางคืน โดยเฉพาะในเวลาที่มีความชื้นในอากาศสูง เช่น หลังฝนตก ชอบอาศัยในดินปนทรายที่มีใบไม้หรือเศษซากไม้ทับถมกันเพื่อซ่อนตัว เป็นงูที่ไม่ปราดเปรียว เวลาตกใจจะงอตัวหรือขดนิ่ง แต่ฉกกัดรวดเร็วมาก กินอาหารได้แก่ สัตว์ขนาดเล็ก เช่น หนู, นก หรือสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก มีความยาวเต็มที่ประมาณ 1 เมตร ออกไข่ครั้งละ 10–20 ฟอง[3]ในตัวที่มีสีคล้ำเรียกว่า "งูปะบุก"[4]
พบกระจายพันธุ์ทั่วไปในภูมิภาคอินโดจีนไปจนถึงแหลมมลายู สำหรับในประเทศไทยพบได้ทั่วทุกภาค แต่จะพบมากที่สุดในภาคใต้ เป็นงูที่ปรับตัวให้อาศัยอยู่ในพื้น ๆ ที่มีการทำเกษตรกรรมได้ เช่น สวนยางพาราหรือสวนปาล์มน้ำมัน จึงมักจะมีผู้ถูกกัดอยู่บ่อย ๆ นับเป็นงูพิษที่มีอันตรายต่อมนุษย์มากที่สุดที่พบในประเทศไทย ซึ่งพิษของงูกะปะนั้นมีผลต่อระบบเลือด ทำให้เลือดออกมากผิดปกติ เมื่อถูกกัดภายใน 10 นาทีหลังบริเวณรอบแผลที่ถูกกัดจะบวมขึ้นย่างรวดเร็วจนกระทั่งแขนหรือขาข้างนั้นบวมไปหมดภายใน 1 ชั่วโมง โดยในรอยเขี้ยวจะมีเลือดไหลตลอดเวลา บริเวณแขนขาที่บวมจะมีสีเขียวคล้ำ ผิวหนังเกิดพองตอนแรกมีน้ำใสต่อมาภายหลังมีเลือด ภายหลังถูกกัดไม่กี่วันรอยเขี้ยวจะเกิดการเน่า ทำให้ผิวหนังมีเลือดออกเป็นรอยคล้ำ เลือดออกทางเดินอาหาร ผู้ที่โดนกัดจะเสียชีวิตได้จากความดันโลหิตต่ำ ซึ่งความดันโลหิตต่ำ เกิดจากการเสียเลือดนั่นเอง
ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%B0
Other Posts By This Blogger
- Older « ใบเตย สรรพคุณและประโยชน์ของใบเตยหอม
- Newer » FE-SEM เครื่องล่าสุด
ร่วมแสดงความเห็นในหน้านี้