comment: 3
จากความภูมิใจกลับกลายเป็นความกังวล!!!
ช่วงเวลาที่ลูกชายคนโต อายุ 6 ขวบ จบจากชั้นอนุบาล 3 เข้าสู่ชั้นประถมศึกษา คุณพ่อและคุณแม่พยายามทุกวิถีทางให้ลูกชายคนนี้สอบเข้าโรงเรียนที่คิดว่าดีที่สุดใน อ.หาดใหญ่
ให้ลูกอ่านหนังสือโดยคุณแม่เป็นคุณครูสอนติวให้เองทั้งๆ ที่ไม่มีแนวเลยว่าข้อสอบจะออกมาแนวไหน ส่งเรียนพิเศษเพื่อสอบเข้าเรียนต่อ... จนลูกสามารถสอบผ่านได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่ คุณพ่อคุณแม่ตั้งใจไว้
ความรู้สึกตอนนั้น คุณพ่อและคุณแม่ดีใจสุดๆ
แต่ไม่ใช่แค่การสอบเข้าเท่านั้นที่พิสูจน์ว่าลูกจะสำเร็จ การเริ่มเข้าเรียนในโรงเรียนใหม่ หลักสูตรใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ เพื่อนใหม่ ทุกอย่างใหม่หมด ยิ่งทำให้คุณแม่อย่างฉันกังวลมากกว่าการสอบเข้าเป็นไหนๆ
การเรียนของเด็กสมัยนี้ทำไมมันยากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ การบ้าน ไม่เหมือนกับสมัยก่อนที่ตัวเองเรียนผ่านมา... สมัยก่อน ไม่มีการติว ไม่มีเรียนพิเศษ เราก็เรียนเอง ทำการบ้านเอง โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องมามีบทบาทเหมือนรุ่นลูกของตัวเอง
วันนี้ คุณแม่สามารถเข้าระบบเพื่อดูผลสอบเก็บคะแนนของลูกชายได้ ในใจเต้นรัว ไม่เป็นจังหวะ เพราะกลัว ไม่รู้ว่าผลสอบของลูกจะเป็นยังไงบ้าง?
ผลสอบออกมาก็ไม่ได้ทำให้คุณแม่ผิดหวังหรือสมหวังดั่งตั้งใจ ผลสอบออกมามีทั้งได้คะแนนเต็ม และสอบไม่ผ่านในบางรายวิชาที่ลูกอาจจะไม่เข้าใจหรือไม่พร้อมในการสอบ
ตอนนี้เริ่มเกิดคำถามกับตัวเองว่า “คุณแม่กังวลการเรียนของลูกมากเกินไปหรือเปล่า?”
จะเคี่ยวเข็ญกับเด็กแค่ 6 ขวบมากเกินไปมั้ย
ในสังคมที่เรียนโดยแข่งขันกันอย่างจริงจัง ตั้งแต่เด็ก จากการพูดคุยกับพี่ที่คณะฯ ที่มีลูกชายเรียนโรงเรียนเดียวกัน เพื่อทำให้ตัวเองสบายใจขึ้นและเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันว่าเรียนกันไปถึงไหน อย่างไร? และเพื่อนๆ ที่มีลูกในวัยเดียวกัน ทำให้ตัวเองรู้สึก “เราคิดมากไปนะ”
เป็นเพราะเราเป็นคนคิดมาก หรือเราตั้งความหวังกับลูกไว้สูงเกินวัยที่ลูกจะสามารถทำตามที่ใจเราต้องการได้ ฉะนั้นเราต้องเป็นคนที่คอยให้กำลังใจ เป็นแรงเสริมให้ลูกก้าวผ่านการเรียน และการสอบอันหนักหน่วงนี้ไปให้ได้อย่างมีความสุข ดีกว่าการมานั่งกังวลถึงคะแนน และผลการสอบ
ขอแค่ลูกมีความสุขกับสิ่งที่ลูกเรียน ลูกเล่น ตามวัยที่เหมาะสม และเป็นคนดีในสังคม น่าจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอที่คุณแม่ต้องการ
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « ดวงตาคือ...หน้าต่างของหัวใจ
- ใหม่กว่า » วันที่สัญญาณแฟกซ์ขัดข้อง
comment
![]() |
โรงเรียน(ที่คุณก็รู้ว่าที่ไหน)นั้น มีครู "เกินกว่าครึ่ง"
ที่มีเจตนาทำให้การเรียนและการสอบ "ยากเกินปกติ"
ที่เห็นชัด ๆ คือการออกข้อสอบที่ไม่ค่อยสอนในห้อง
แต่กลับสอนครบถ้วนในชั่วโมงเรียนพิเศษ
หรือสอนครบถ้วนในห้อง แต่เป็นไปในลักษณะ รีบ และ ลวก
แต่กลับสอนละเอียดและทบทวนซ้ำในชั่วโมงเรียนพิเศษ
พฤติกรรมที่สะท้อนเจตนานั้นอย่างชัดเจนก็คือ
คำสั่งห้ามเผยแพร่ Sheet ที่เรียนในชั่วโมงเรียนพิเศษ
ให้กับนักเรียนที่ไม่ได้เข้าเรียนพิเศษ
ครูบางคนมีรายได้จากการสอนพิเศษเป็นหลักแสนต่อเดือน
ท่ามกลางความล้าเรียนของเด็ก และความเครียดของผู้ปกครอง
เป็นอย่างนี้มานานนับสิบปีแล้ว
มีการร้องเรียนจากผู้ปกครองทุกปี ปีละหลาย ๆ ครั้ง
แต่ทางผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่ค่อยกล้าจัดการสักเท่าไร
...และมีแนวโน้มกว่าทั้งเด็กและผู้ปกครองจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ
![]() |
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในชั่วโมงเรียนปกติของเด็กชั้นประถมห้องหนึ่ง
เด็กที่เรียนพิเศษถามคำถาม ได้รับคำอธิบายอย่างดี
เด็กที่ไม่ได้เรียนพิเศษถามคำถาม กลับถูกตวาดจนร้องไห้กลางห้องเรียน และกลับมาร้องไห้ต่อที่บ้านว่าไม่อยากไปโรงเรียนอีกแล้ว
08 July 2016 08:38
#105284
ความเป็นแม่ย่อมกังวลกับลูกในทุกๆ เรื่องที่เข้ามา แต่ก็ต้องจัดหา และให้เขาเรียนรู้ด้วยตนเองบ้างนะค่ะ และให้กำลังใจ ให้เวลากับลูกเป็นสิ่งสำคัญค่ะ สู้ๆ ค่ะ คุณแม่สาว