ความเห็น: 1
เล่าลือหลังวัง.......บทความดีๆที่หลายคนอาจะยังไม่เคยรู้
ที่แรกตั้งใจลงพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อ แต่พอดี มาเจอบทความดี ๆ "เล่าลือหลังวัง" อ่านแล้วทั้งยิ้มไปน้ำตาซึมไปเลยนำมาให้อ่านกันก่อนคะ
1. น้ำลดหรือยัง
.....หลายปีมาแล้วเมื่อครั้งน้ำท่วมภาคใต้ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เป็นช่วงเวลาที่การสื่อสารแห่งประเทศไทยได้นำเครื่องโทรพิมพ์มาติดตั้งที่ห้องทรงงานใหม่ๆ เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวาย ข้าราชสำนักท่านหนึ่งกรุณาเล่าให้ฟังว่า
.....แม้จะดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ยังไม่เสด็จขึ้นห้องพระบรรทม แต่ทรงคอยติดตามข่าวเรื่องอุทกภัยที่หาดใหญ่อยู่อย่างใกล้ชิดด้วยทรงห่วงใยราษฎร จึงทรงส่งคำถามผ่านเครื่องโทรพิมพ์ด้วยพระองค์เอง ถามไปทางหาดใหญ่ว่า "น้ำลดแล้วหรือยัง"
.....โดยที่ไม่ทราบว่าผู้ส่งคำถามมานั้นคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คำตอบที่มีผ่านมาทางเครื่องโทรพิมพ์ เมื่อเวลาประมาณตีสองตีสาม มีข้อความที่ตอบด้วยความไม่พอใจว่า "ถามอะไรอยู่ได้ ดึกดื่นป่านนี้แล้ว คนเขาจะหลับจะนอน" แต่ตอนท้ายของคำตอบนั้นก็ไม่ลืมที่จะบอกด้วยว่า "น้ำลดแล้ว"
ที่มา : บทความเรื่อง "ในหลวงกับประชาชน" โดย ถาวร ชนะภัย หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๐2. มณีเมขลากับแอนเจลล่า
.....พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษาลักษณะอากาศโดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายทุกวัน ร่วมกับข้อมูลจากต่างประเทศที่พระองค์ทรงเลือกเองจากระบบสื่อสารต่างๆ.... .....ในหลายครั้งที่พระองค์ทรงมีพระราชวินิจฉัยในลักษณะแตกต่างออกไป และผลก็ออกมาตามพระราชวินิจฉัย พระองค์ท่านก็จะทรงมีพระราชดำรัสในทางขำขันเพื่อไม่ให้เราเสียใจ เช่น การไม่เข้ามาของพายุ Angela ในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ทรงมีรับสั่งว่า "ไม่เป็นไร ลูกนี้ไม่เข้า ฉันให้นางเมขลาพาไปที่เขาพระสุเมรุแล้ว"
ที่มา : บทความ "พระปรีชาสามารถในกิจการสื่อสารอุตุนิยมวิทยา" เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์นายสมิทธ ธรรมสโรช ในหนังสือ "เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านการสื่อสาร"
3. เชื้อโรคตายหมด
.....เหตุการณ์ในปี ๒๕๑๓ ที่ควรจะนำมากล่าว เพราะมีผลต่อจิตใจของชาวเขา และควรที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ได้ทราบเพื่อพยายามเดินตาม "เบื้องยุคลบาท"
วันนั้นเสด็จฯ ไปหมู่บ้านดอยจอมหด พร้าว เชียงใหม่ ผู้ใหญ่บ้านลีซอกราบทูลชวนให้ "ไปแอ่วบ้านเฮา" ก็เสด็จฯ ตามเขาเข้าไปบ้านซึ่งทำด้วยไม้ไผ่และมุงหญ้าแห้ง เขาเอาที่นอนมาปูสำหรับประทับ แล้วรินเหล้าทำเองใส่ถ้วยที่ไม่ค่อยจะได้ล้างจนมีคราบดำๆ จับ ผู้เขียนรู้สึกเป็นห่วง เพราะตามปกติไม่ทรงใช้ถ้วยมีคราบ (ผิดกับผู้เขียน) จึงกระซิบทูลว่าควรจะทรงทำท่าเสวย แล้วส่งถ้วยมาพระราชทานผู้เขียนจัดการแต่ก็ทรงดวดเอง กร้อบเดียวเกลี้ยง ตอนหลังรับสั่งว่า "ไม่เป็นไร แอลกอฮอล์เข้มข้นเชื้อโรคตายหมด"
ที่มา : หนังสือ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับโครงการหลวง" โดย หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี4. บาบูรักในหลวง
....ระหว่างทรงพระผนวช ทุกเช้าจะมีบาบู 3 นาย ขี่สามล้อเครื่องค่อนข้างเก่ามาหยุดอยู่ที่ประตูวัดบวรฯ คนขับซึ่งแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตและกางเกงขาสั้น ลงมาแก้ห่อนมสด 2 ขวด พร้อมกับหนีบนมสดทั้ง 2 ขวดเข้าไปให้แก่เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ณ พระตำนัก เพื่อถวายแด่พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บาบูนายนี้ชื่อนายรามดาส ชาวอินเดีย เข้ามาทำมาหากินในเมืองไทยได้ 20 กว่าปีแล้วมากับลูกชายและนายซิตาราม ซิงห์ อายุ 56 ปี เป็นพี่น้องกัน ทั้งสามนับถือศาสนาฮินดู “แขกกับไทยมิใช่อื่นไกลพี่น้องกัน ศาสนาไม่เกี่ยว ฉันอยู่เมืองไทยมายี่สิบกว่าปี สบายดีเหลือเกิน ฉันคิดถึงพระคุณในหลวง และฉันรักท่านมาก ฉันจึงไปขออนุญาตเจ้าหน้าที่เขาถวายนมสดวันละ 2 ขวดน่ะ” บาบูรามดาสได้เผยว่า นมสดที่เขานำมาทูลเกล้าฯ ถวายได้ทำอย่างชนิดพิเศษ คือรีดจากนมวัวแล้วใส่ขวดเลย โดยไม่ปะปนกับนมสดที่นำไปขาย.... ที่มา : หนังสือพิมพ์ “พิมพ์ไทย” เดือนตุลาคม พ.ศ. 2499
5. ตายด้วยกัน
.....ขณะที่ทั้งสองพระองค์ประทับอยู่บนพลับพลา ณ สนามโรงพิธีช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา และกำลังพระราชทานรางวัลแก่โต๊ะครู การพระราชทานต้องหยุดชะงักลงทันที เพราะมีเสียงระเบิดเกิดขึ้น ๒ ครั้งในหมู่ราษฎรที่นั่งรอเฝ้าฯ....
.....ราษฎรที่นั่งรอเฝ้าอย่างมีระเบียบต่างก็ลุกขึ้นเป็นอลหม่าน บ้างก็นอนคว่ำอยู่กับพื้น บ้างก็ออกวิ่งให้ห่างจากจุดที่มีเสียงระเบิด พากันวิ่งตัดสนามผ่านหน้าพลับพลา ถ้ามีใครหกล้มกับพื้นข้าพเจ้าคิดว่าคงมีการเหยียบกันตายให้เห็นต่อหน้าเป็นแน่...
...ทุกคนที่อยู่บนพลับพลาต่างก็ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เห็นราษฎรที่ต่างก็วิ่งรุดไปข้างหน้าจนไกลด้วยความตกใจสุดขีด และสักครู่เขาก็วิ่งกลับมาที่เดิมใหม่ เมื่อไม่มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นอีก เหตุการณ์สงบ สักครู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็พระราชทานรางวัลแก่โต๊ะครูจนเสร็จพิธี ต่อจากนั้น ทั้งสองพระองค์ก็ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรที่กลับมารอเฝ้าฯ ด้วยพระอิริยาบถและพระราชจริยวัตรเป็นปกติ....
.....มีเด็กสาววิ่งเข้ามาเขย่าพระกรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ร้องไห้พลางปากก็ร้องว่า "เขาจะฆ่าท่านทำไม ท่านก็รักราษฎรแล้วท่านก็ดีกับพวกหนู" ผู้หญิงแก่คนหนึ่งก็เข้ามากราบบังคมทูลว่า "ท่านอย่าโกรธฉันนะจ๊ะ เสียงมันดังปังขึ้นมา ฉันก็ตกใจวิ่งหนี แต่พอวิ่งไปแล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ท่านยังอยู่ที่นั่นก็ เลยต้องวิ่งกลับมาหา คิดว่าถ้าเป็นอะไรขึ้นมาก็มาตายด้วยกัน"
ที่มา : ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
14 ธันวาคม 2552 16:38
#52009