ความเห็น: 4
พื้นดินที่อยู่ตรงหน้ากับการวิ่งไปเรื่อยๆ: hatyai international marathon 2012
ผมเพิ่งกลับมาจากการวิ่ง fun run ในงาน Hatyai International Marathon 2012 ที่จัดขึ้นที่สนามกลางจิระนครมาครับ
ปีนี้ผมไปงานช้าไปนิด ด้วยที่มีการเปลี่ยนเส้นทางวิ่งจากปีที่แล้ว ทำให้การหาที่จอดรถต้องอ้อมไปทางตลาดสด ซึ่งทำให้ใช้เวลาเดินทางมากไปนิด แต่ก็เริ่มปล่อยตัววิ่ง fun run ในเวลาประมาณ 6.09 น.
คนวิ่งก็มากเหมือนปีก่อนครับ ผมไปช้าเสื้อขนาด XL และ L หมดแล้วก็เลยเลือกเสื้อกล้าม XL มา 1 ตัว ซึ่งแสดงถึงความสำเร็จของงานนี้ ราคาการร่วมงานก็ผู้ใหญ่ 200 บาทพร้อมเสื้อ และเด็ก 50 บาทไม่มีเสื้อ
ก็เช่นเคยครับ เมื่อออกวิ่งได้ผมก็ตั้งใจว่า จะวิ่งไปเรื่อย ๆ โดยไม่ยอมหยุดเดิน และในช่วงหลัง ๆ เมื่อผ่านครึ่งทางมาแล้ว ผมก็ใช้วิธีการมองเฉพาะพื้นดินที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น และวิ่งไปเรื่อย ๆ
วิธีการนี้ ได้ผลทางด้านจิตใจ คือมีสมาธิ ไม่ต้องเห็นเป้าหมายซึ่งอาจอยู่ไกลจนเรารู้สึกท้อแท้ จิตใจฟุ้งซ่านอยากหยุดวิ่งได้ และนานๆ ก็เงยหน้าดูไกลๆ สักทีแล้วก็ก้มดูพื้นตรงหน้าต่อไป
ผมเปรียบเหมือนการดำเนินชีวิตว่า เราอาจไม่ต้องไปมองไกลถึงอนาคตข้างหน้าให้มากเลย เราใช้เวลาในปัจจุบันทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีที่สุดก็พอแล้ว ทำเหมือนกับว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของชีวิต
และแล้วผมก็ทำได้อีกครั้งที่วิ่งโดยไม่ต้องหยุดเดิน การบรรลุเป้าหมายเล็กๆที่ตั้งเอาไว้ เป็นแรงใจที่ผมบอกตัวเองว่า เราทำได้ถ้าเรามุ่งมั่น หากจะทำไม่ได้ก็เพราะใจเราท้อถอยเองมากกว่า
ผมก็คงมีความสุขในวันนี้ เพราะได้ทำสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว 2 ประการคือ
1. ได้วิ่ง fun run หลังจากหยุดไปร่วม 8-9 เดือน
2. เมื่อตั้งเป้าหมายไว้แล้วก็ทำได้สำเร็จ
ก็มีความสุขจนต้องรีบมาบันทึกนี่แหล่ะครับ
การวิ่งครั้งนี้แปลกดีที่ไม่มีอาการเจ็บจากการเกิดกรด มีอาการหนักๆ ตรงสะโพกขวาเท่านั้น ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ผลที่ไม่มีอาการปวดอาจมาจากการเล่นเทนนิสอย่างต่อเนื่อง ที่ทำให้ร่างกายมีความพร้อมในการวิ่งครั้งนี้ก็ได้ ซึ่งผมก็วิ่งช้า ๆ เท่านั้นนะครับ ใช้เวลาวิ่งไปประมาณ 35-40 นาที ซึ่งเร็วกว่าเดินนิดเดียวเอง
ครั้งหน้าของการวิ่ง ที่มีการประชาสัมพันธ์ออกมาแล้ว คือ เดิน-วิ่งของคณะเภสัชศาสตร์ครับ 24 มิถุนายน 2555
ผม..เอง
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « เทนนิสเล่นด้วยเท้า
- ใหม่กว่า » การแข่งขันบริดจ์รอบคัดเลือกรวมภา...
ความเห็น
- วันนี้ไปร่วมด้วยค่ะ แต่แผนการเดินทางผิดพลาด เพราะไม่ทราบเส้นทางที่ชัดเจน ขับไปเส้นทางคิดว่าจะไปได้ ตำรวจก็โบกมือไม่ให้เข้า หากเราไม่ทราบเส้นทาง เราคงหลงกว่าจะไปถึงที่หมาย แต่ด้วยความเป็นคนที่ชอบลัดเลาะเส้นทางบ่อย ๆ ก็เดินทางไปสู่เป้าหมายเกือบไม่ทันเช่นกัน จริง ๆ แล้วตรงวงเวียนน้ำพุ มีช่องทางอีกเส้นหนึ่งที่จะไปได้ น่าจะเหลือไว้บ้างนะ (บ่นอีกแล้ว)
- แล้วพบกันที่คณะเภสัชฯ นะค่ะ
27 พฤษภาคม 2555 19:18
#77458
ภาพใครไม่รู้ แอบถ่ายมา เช้านี้เอง...อิ...อิ...