อ่าน: 1678
ความเห็น: 0
ความเห็น: 0
“โรคซึมเศร้า”
9 พฤติกรรมบ่งบอกคุณกำลังเป็น“โรคซึมเศร้า”โดยไม่รู้ตัว!
“สาเหตุการฆ่าตัวตายที่พบได้บ่อย และคนไม่ค่อยทราบกันคือ เรื่องของโรคซึมเศร้า เนื่องจากมีคนจำนวนมาก ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าแต่ไม่รู้ว่าตัวเองป่วย ซึ่งหากป่วยแล้วปล่อยไว้นานๆ โดยไม่ได้รักษา ก็จะส่งผลให้คนไข้มีความคิดที่จะฆ่าตัวตายได้” คุณหมออภิสมัยเกริ่นนำถึงภัยร้ายแรงของโรคซึมเศร้า
ต้นตอสำคัญมาจากพันธุกรรม!
“อาการที่เด่นชัดของโรคซึมเศร้าคือ อาการหงุดหงิด ก้าวร้าว อารมณ์เศร้า ถ้าผู้ป่วยเป็นวัยรุ่น อาจจะมีอาการหงุดหงิด ก้าวร้าว อยู่ๆ ก็อยากหงุดหงิด ซึ่งจุดนี้บางคนคิดว่าเมื่อไปเจอเรื่องราวมรสุมชีวิต เลยกลายเป็นโรคซึมเศร้า แต่จริงๆ ไม่ใช่ ปัจจุบันทางการแพทย์เราเชื่อว่า โรคซึมเศร้านี้ เมื่อคนเราเกิดมา ร่างกายก็มียีน (Gene)ติดตัวมาอยู่แล้ว ดังนั้นหากพ่อแม่เป็นโรคซึมเศร้า หรือปู่ ย่า ตา ยาย เป็นโรคซึมเศร้า คนๆ นั้นก็มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าคนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคู่แฝด ถ้าฝาแฝด คนใดคนหนึ่งเป็น แฝดอีกคนก็จะมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามากถึง 50% หรือมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า
ดังนั้นโรคซึมเศร้าจึงไม่ใช่ว่าชีวิตต้องเจอกับมรสุมอะไร คนไข้หลายคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มักจะบอกกับหมอว่า ชีวิตก็ดี งานก็ดี ลูกก็ดี แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ ถึงเศร้าขึ้นมา คำตอบก็คือ ยีน ที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดนี่แหละ แต่ปัจจัยภายนอกก็มีผลเช่นกัน เพราะบางคนที่มียีนอยู่แล้ว ติดตัวมาแต่เกิด และเมื่อโตขึ้นก็ไปเจอมรสุมชีวิตอีก มันก็ยิ่งเป็นเหมือนการกระตุ้นให้อาการป่วยแสดงออกมา” จิตแพทย์แห่งโรงพยาบาลศรีธัญญาอธิบายถึงต้นตอ
สัญญาณบอกเหตุของโรคซึมเศร้าว่ามีด้วยกัน 9 ประการ ซึ่งหากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการเหล่านี้ 5 ข้อติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์ ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน ว่าอาจถูกเจ้าโรคซึมเศร้ามาเยือนเข้าแล้ว
การรักษาโรคซึมเศร้ามี 3 องค์ประกอบด้วยกัน อย่างแรกคือ ยา ที่จะช่วยปรับสารสื่อประสาทในสมองให้สมดุล แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือ องค์ประกอบที่ 2 นั่นคือ การทำจิตบำบัดให้คนไข้ เช่นคนไข้มีปัญหาที่การควบคุมอารมณ์ ก็แก้ที่การควบคุมอารมณ์
นอกจากนี้องค์ประกอบที่ 3 คือ เรื่องของสังคม ก็มีส่วนช่วยบำบัดฟื้นฟูมาก เช่น คนไข้ที่เมื่อมารักษากับแพทย์ กลับบ้านไปแล้วมีกิจกรรมทำ กลับไปเรียนหนังสือตามปกติ ไปทำงานมีเพื่อนฝูงตรงนี้จะยิ่งทำให้คนไข้ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้ไว เทียบกับคนที่กินยา แต่เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร แม้จะกินยาเหมือนกันแต่ว่าผลในการบำบัดรักษาฟื้นฟูจะแตกต่างกัน คือ กลุ่มที่เก็บเนื้อเก็บตัว ผลการรักษาจะไม่ดีเท่าไหร่”
ที่มา: http://www.manager.co.th/CelebOnline
created: 12 September 2015 19:16
Modified: 12 September 2015 19:22
[ Report Abuse ]
Other Posts By This Blogger
- Older « กิจกรรมประจำเดือน สิงหาคม 2557
ร่วมแสดงความเห็นในหน้านี้