ความเห็น: 1
ความรู้คืออำนาจ จริงหรือ ?
สมมติว่า ใครสักคนหนึ่ง ขับรถทางไกล ไปคนเดียว แล้วรถไปตายกลางทาง
ก่อนรถจะจอดนิ่ง เขาได้ยินเสียงแปลก ๆ จากห้องเครื่อง
ความรู้คืออำนาจ จะจริงก็เมื่อสามารถช่วยให้เขาหลุดจากสถานการณ์นั้นได้
สมมติว่า คนขับ เป็นช่างซ่อมรถที่มีประสพการณ์สูงมาก
ในกรณีนี้ เสียงที่เขาได้ยิน อาจมีความหมายที่อัดแน่นด้วยข้อมูล ที่สมองสามารถ decryption ออกมาเป็นคู่มือในการซ่อมรถ สำหรับคนขับผู้นั้น ว่าจะต้องทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอน เรียกว่า ถ้ามีเครื่องมืออุปกรณ์ซ่อมติดมาด้วย ก็จัดการได้สบายมาก
กรณีนี้ เรียกว่า ความรู้มีอำนาจ
แต่ถ้าไม่ใช่ช่างซ่อมล่ะ ?
สมมติว่า เขาเป็นนักวิจารณ์รถ มีความรู้เรื่องรถรุ่นนี้ดีมาก ว่าหัวหน้าทีมผู้ออกแบบ ชื่ออะไร ย้ายบริษัทมากี่แห่ง ได้ขึ้นปกนิตยสารรถแข่งปีที่แล้วกี่ครั้ง เครื่องยนต์รถนี้เกิดขึ้นได้จากสิทธิบัตรไม่ต่ำกว่ายี่สิบฉบับ ประสิทธิภาพการเผาใหม้เชื้อเพลิงมีกี่เปอร์เซนต์ บอกได้หมด แต่ไม่รู้ว่า เสียงเมื่อกี้ คืออะไร และรถเสีย เพราะอะไร
ในกรณีนี้ เขาก็อาจได้เพียงความรู้ว่า ที่รู้มาก่อนหน้านี้ ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ คือขาดไปนิดนึง เฉพาะส่วนที่จำเป็นต่อการแก้ปัญหา
แบบนี้ มีความรู้อัดแน่นกว่านี้ ก็ไม่มีอำนาจ
หากสมมติต่อไปอีกว่า คนขับคนนี้ มีโทรศัพท์ และรถเสียในจุดที่มีสัญญาณโทรศัพท์
ในกรณีนี้ ความรู้ ก็จะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ทั้งที่สิ่งที่เขารู้ คือวิธีใช้โทรศัพท์เพื่อเขื่อมต่อกับอู่ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกอะไรเลย
แถมโทรศัพท์ ไม่จำเป็นต้องเป็น Black Berry ด้วย แบบจีนประดิษฐ์ตัวละไม่กี่ร้อยบาทนี่แหละ ก็ใช้งานได้แล้ว
แสดงว่า ความรู้เรื่องรถของคนที่สอง ไม่มีอำนาจหรือ
ก็ไม่ใช่อีก หากเขากลับไปสู่โลกปรกติของเขา ในตำแหน่งหน้าที่การงานของนักวิจารณ์รถในนิตยสารแนะนำรถที่มีคนอ่านทั่วโลก ความรู้ที่เขามี ก็จะสามารถส่งผลสะเทือนได้ เพราะอาจชี้เป็นชี้ตายกับรถบางรุ่นได้อย่างรุนแรง
ความรู้เป็นอำนาจ ก็มีเงื่อนไขแวดล้อมของมัน หากอยู่ผิดเงื่อนไข รู้กับไม่รู้ก็ไม่แตกต่าง
แต่หากเงื่อนไขลงตัว ความแตกต่างก็อาจมีมากมหาศาล
ในการเรียนรู้ที่ดี การมีองค์ความรู้จำเป็นก็จริง แต่ควรตระหนักว่า พลังขององค์ความรู้ จะไม่สามารถเปล่งพลังออกมาได้ หากเงื่อนไขที่จำเป็น มีไม่ครบถ้วน
ความรู้ว่ายาสังเคราะห์ได้อย่างไร เป็นกรณีตัวอย่างที่น่าสนใจ
คนจำนวนมาก ชอบถามว่า บ้านเรา มีคนเก่ง ๆ รู้วิธีสังเคราะห์ยาตั้งเยอะ ทำไมขึ้นหิ้งหมด วัตถุดิบยังต้องซื้อจากต่างประเทศมาผลิตยาเป็นหลักอยู่เลย
นั่นเพราะ เงื่อนไขแวดล้อม คือ อุตสาหกรรมต้นน้ำและปลายน้ำ อาจยังไม่สุกงอมถึงจุดที่จะต่อยอดเป็นการสังเคราะห์ใช้เองในเชิงความคุ้มทุนทางเศรษฐกิจ
ผมเชื่อว่า สารเคมีวัตถุดิบแทบทุกอย่าง คนไทยสังเคราะห์เป็นหมดแหละ
แต่ในเงื่อนไขแวดล้อมของอุตสาหกรรมที่เป็นอยู่ ผลิตแล้วอาจแพงกว่าจีนหรืออินเดียผลิตเป็นร้อยเท่า หรือเป็นพันเท่า ทำให้ทำไม่ได้ เพราะจะขายไม่ออก
เพราะราคาต้นทุนการผลิตพวกนี้ ต้องการผลิตสเกลใหญ่จึงจะคุ้ม (scale of economy) ที่วางในระบบนิเวศของสายโซ่อุปสงค์-อุปทานที่ต่อเชื่อมกันอย่างฉลาด มีสายการผลิตที่เป็นทางเลือกได้หลากหลายเนื่องจากผลิตอย่างอื่นด้วย (scale of varieties) มาเป็นโครงสร้างรองรับพื้นฐาน (infrastructure) สั่งสมไว้ เป็นต้นทุนที่มองไม่เห็น แต่มีอยู่จริง และกลายเป็นตัวกำหนดต้นทุนที่แท้จริงไป
เช่น ถ้าไม่มีอุตสาหกรรม petrochemical อยู่ก่อน และยังไม่ถึงขั้นเกิด product diversity ของสายการผลิต เป็นฐานรองรับ ผลิตยังไงก็ขายแข่งจีน/อินเดียไม่สำเร็จ เพราะวัตถุดิบต้องผ่านคนกลางหลายทอด ผลักให้ต้นทุนแพงขึ้นมหาศาล ไม่เหมือนครบวงจรในสายพานการผลิตเดียว
นี่ก็เป็นตัวอย่างที่องค์ความรู้ ไม่สามารถเปล่งพลังออกมาได้ เพราะเงื่อนไขที่จำเป็น มีไม่ครบถ้วนOther Posts By This Blogger
- Older « หัดภาษาด้วย [ซับนรก]
- Newer » TED TALK เว็บการศึกษาที่ "ควรส่ง...
03 กุมภาพันธ์ 2553 10:51
#53738
คนที่พูดว่าความรู้คืออำนาจ หรือ Knowledge is power คนแรกก็คือนักปรัชญาที่ชื่อว่า ฟรานซิส เบคอน เขาพูดในความหมายโดยทั่วไป
และที่กล่าวมาทั้งหมด ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความรู้คืออำนาจอยู่ดี อำนาจในการแก้ปัญหา อำนาจที่มีอิทธิพลเหนือคนที่ไม่รู้
ความรู้คืออำนาจ และอำนาจของความรู้ สามารถอธิบายได้โดยทั่วไป